ปาล์มน้ำมัน กับ สภาพแวดล้อม
ปริมาณน้ำฝน ปาล์มน้ำมัน ชอบสภาพภูมิอากาศที่มีฝนตกชุกและสม่ำเสมอตลอดปี ความชื้นสูง แสงแดดจัด พื้นที่ทางภาคใต้ ส่วนใหญ่จึงเหมาะสมเนื่องจากมีการกระจายของน้ำฝนสม่ำเสมอ ประมาณ 1,800 – 2,000 มม./ ปี และจะต้องไม่มีสภาพแล้งเกิน 3 เดือน และอาจจำเป็นต้องมีระบบชลประทานใช้ในกรณีที่ เกิดการขาดฝนนาน ๆ หรือ อาจแก้ปัญหาโดยการเพิ่มร่องน้ำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ ปาล์มน้ำมัน ปัจจัยที่สําคัญ ในการเลือกพื้นที่ปลูกต้องคํานึงถึง สภาพภูมิอากาศ สภาพดิน และการขนส่งด้วยเช่นกัน
อุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการปลูก ปาล์มน้ำมัน อยู่ในช่วง 25 –
28 องศา ปริมาณแสงแดด อย่างน้อย
วันละ 5 ชั่วโมง และมีความชื้นสัมพันธ์ของอากาศในรอบปี
ไม่ต่ำกว่า 75%
สภาพดินที่เหมาะสม การปลูก ปาล์มน้ำมัน ควรเลือกพื้นที่ที่มีดินร่วนเหนียวถึงดินเหนียว มีความลึกของชั้นหน้าดินมากกว่า 75 ซม. อุ้มน้ำได้ดี มีธาตุอาหารสูงมีความเป็นกรดอ่อน pH 6.5 – 7.5 สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่เกิน 500 เมตร มีความลาดชันไม่เกิน 12% หากสภาพดินไม่เหมาะสมควรมีการปรับปรุงดินให้มีความเหมาะสมก่อนทำการปลูก ปาล์มน้ำมัน
ปริมาณแสงแดด โดยทั่วไป ปาล์มน้ำมัน ต้องการแสงแดดอย่างน้อย 5 ชั่วโมง หากปลูก ปาล์มน้ำมัน ในสถาพที่มีร่มเงา หรือปลูกในสภาพชิดกันเกินไป จะทําให้การสะสมน้ำหนักและการผลิตช่อดอกเพศเมียลดลง ทําให้ผลผลิตลดลงโดยจะแสดงผลเสียให้เห็นตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป
การขนส่ง การขนส่งผลผลิตทะลาย ปาล์มน้ำมัน สู่โรงงานมีความสําคัญเป็นอันดับต้น ๆในการทำสวน ปาล์มน้ำมัน ( ไม่ควรเกิน 24 ซม หลังเก็บเกี่ยว ) ควรมีพื้นที่ปลูก ปาล์ม ห่างจากโรงงานสกัดไม่เกิน 120 กม. และมีพื้นที่ทําการขนส่งได้สะดวก
สภาพแวดล้อม เป็นป็จจัยสําคัญที่จะช่วยให้การปลูก ปาล์มน้ำมัน ได้รับผลสําเร็จ เกษตรกรควรพิจารณาศักยภาพของพื้นที่เหมาะสม โดยการตรวจสอบพื้นที่ก่อนปลูก ปาล์มน้ำมัน เสียก่อนโดยสอบถามจากสํานักงานเกษตรจังหวัด สํานักงานเกษตรอําเภอว่าในพื้นที่ที่ปลูก ปาล์มน้ำมัน นั้นเหมาะสมหรือไม่
หากพื้นที่ไม่เหมาะสมควรปลูกพืชชนิดอื่น เมื่อปลูก ปาล์มน้ำมัน ไปแล้ว ควรพิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น การปลูกพืชแซม การทำอาชีพเสริมอื่น ๆ เช่นเลี้ยงปลาในร่อง ปาล์มน้ำมัน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดในการปลูก ปาล์มน้ำมัน
การสร้างถนนและทางระบายน้ำ ถนนในสวน ปาล์มน้ำมัน มีความจําเป็น เป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้เพื่อช่วยให้การเข้าปฏิบัติงานการดูแลรักษาและเก็บเกี่ยวเป็นไปด้วยความสะดวก
ควรมีทั้งถนนใหญ่ และ ถนนซอย
ถนนใหญ่
ควรมีความกว้างประมาณ 6 เมตร และควรมี 2 สาย ต่อ 1 แปลงใหญ่คือด้านหน้าและด้านหลังแปลง ควรอยู่ห่างกันไม่ น้อยกว่า 1 กิโลเมตร หรือ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแปลงปลูกนั้น ๆ
ถนนซอย เชื่อมจากถนนใหญ่
เพื่อขนส่งวัสดุการเกษตรและผลผลิตในสวน ปาล์มน้ำมัน ความกว้างประมาณ 4 เมตร ควรห่างกันประมาณ 500 เมตร ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแปลงปลูกนั้น ๆ
ทางระบายน้ำ เป็นสิ่งจําเป็นสําหรับพื้นที่ปลูก ปาล์มน้ำมัน ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการเก็บความชื้น ช่วยระบายน้ำที่มากเกินไป
และ อาจเพิ่มรายได้ ด้วยการเลี้ยงปลา ในร่องสวน ( ทั้งนี้ต้องควบคุมเรื่องการใช้สารเคมีด้วย )
ควรมีการทําพร้อมกับการตัดถนน
ปาล์มน้ำมัน กับการเตรียมพื้นที่ก่อนปลูก
ปาล์มน้ำมัน ก่อนปลูกนั้นต้องมีการเตรียมพื้นที่ก่อนปลูกอย่างน้อย 1 ปี โดยควรปรับพื้นที่ให้เหมาะสมทั้งด้านชีวภาพ และกายภาพ
ควรทําการปลูกในช่วงต้นฝน เพื่อลดปริมาณการให้น้ำและเพิ่มโอกาสรอดของ ปาล์มน้ำมัน ให้เพิ่มขึ้น ควรแบ่งพื้นที่ให้เป็นแปลงย่อย เพื่อให้ปฏิบัติได้ง่ายและสะดวก แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับจํานวนพื้นที่และแรงงาน ด้วยการโค่นต้นไม้
หรือถางป่า โดยใช้เครื่องมือตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ตามความเหมาะสม
ควรปรับสภาพพื้นที่ และพิจารณาการทําถนน การระบายน้ำ
รวมถึงการวางแนวระยะปลูกด้วย เมื่อพิจารณาถึงการใช้พื้นที่ส่วนต่างๆให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การปรับสภาพพื้นผิวดิน ทำการพรวน ไถครั้งแรกด้วยจานไถแบบ 3
จาน จํานวน 2 - 3 ครั้ง
ห่างกันประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วไถด้วยจานไถแบบ 7 จาน จํานวน 1 ครั้ง
หลังจากนั้นฉีดพ่นด้วยสารเคมีประเภทดูดซึม
เช่น ราวอัพ ( หากลง ปาล์มน้ำมัน ในแปลงปลูกแล้ว ไม่ควรใช้สารเคมีประเภทดูดซึมเพราะจะมีผลต่อ ปาล์มน้ำมัน เป็นอย่างยิ่งทั้ งเรื่องการชงักการเติบโต
และการติดผล ) เพื่อกําจัดวัชพืชครั้งสุดท้ายก่อนปลูก
ควรเลือกพื้นที่ที่เหมาะกับการเจริญเติบโต ปาล์มน้ำมัน เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนชื้น ต้องการน้ำฝนเฉลี่ยมากกว่า 2,000 มิลลิเมตรต่อปี และมีการกระจายตัวของฝนสม่ำเสมอตลอดปี
การเตรียมพื้นที่ปลูก ปาล์มน้ำมัน ควรทําในฤดูแล้งช่วงเดือน มกราคม ถึง เมษายน ควรมีการปรับเกลี่ยพื้นที่ กําจัดวัชพืชและตอไม้ มีการทําร่องระบายน้ำในแปลงควรทําทุกๆ 6
- 8 แถวของปาล์มน้ำมัน หรือ ห่างกัน 60 - 80 เมตร โดยขุดเป็นร่องลึกประมาณ 1 เมตร กว้าง 1 เมตร ( ขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์จากแปลงปลูก ปาล์มน้ำมัน หากต้องการใช้ประโยชน์จากร่องน้ำ อาจให้มีขนาดกว้างกว่า 1 เมตร หรือในพื้นที่แห้งแล้งอาจพิจารณาเพิ่มขนาด
ของร่องน้ำ ได้ตามความเหมาะสม ) ในพื้นที่ลาดชัน ที่มีความลาดชันมากกว่า 12 องศา
ควรทําขั้นบันไดกว้าง 4 เมตร ทุกๆระยะ 9 เมตร
ควรทําถนนในแปลงเพื่อใช้ขนส่งวัสดุการเกษตรและผลผลิตในแปลง
การทําถนนขึ้นอยู่กับขนาดของสวน ปาล์มน้ำมัน โดยถนนใหญ่ควรกว้างประมาณ 6
- 8 เมตร ( ขึ้นอยู่กับพื้นที่ )
ห่างกัน 120 ต้นปาล์ม สําหรับถนนซอย
ควรกว้างประมาณ 3 - 4 เมตร ห่างกันประมาณ 20 ต้นปาล์มน้ำมัน ซึ่งสามารถทําถนนซอยให้ขนานไปกับแถวของต้นปาล์มได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์ในแปลงปลูก ปาล์มน้ำมัน เป็นสำคัญอาจมีการปรับเพิ่มลดตามความจำเป็นในพื้นที่
ปาล์มน้ำมัน กับ วิธีการปลูก (
ไม่ควรละเลยจุดนี้)
การวางแนว หลังจากเตรียมพื้นที่
ตัดถนนและทางระบายน้ำแล้ว
จึงวางแนวการปลูกโดยพิจารณาจากความสอดคล้องกับการทํางานการระบายน้ำความลาดเทของพื้นที่ทิศทางของแสงแดดเพื่อให้ ปาล์มน้ำมัน ได้รับแสงแดดมากที่สุด
เพื่อให้ใบได้มีกระบวนการสังเคราะห์แสง ควรปลูกปาล์มน้ำมันแบบสามเหลี่ยม ด้านเท่าแถวหลักเป็นฐานอยู่ในแนวทิศเหนือ – ใต้ แถวที่ใกล้กันจะปลูกกึ่งกลางเป็นระยะยอดของสามเหลี่ยมด้านเท่า และการจัดระยะการปลูก 9 x 9 เมตร เป็นที่นิยมมากที่สุดเนื่องจากทําให้ต้นได้รับแสงมากที่สุด
ไม่ควรปลูก ปาล์มน้ำมัน ให้ชิดมากกว่า 9 X 9 เมตร เพราะจะทำให้เกิดผลเสียในอนาคต เช่น
ผลผลิตจะเริ่มต่ำมากเมื่อ อายุ ปาล์มน้ำมัน มากกว่า 10 ปี หรือ อาจจะมีผลเสียตั้งแต่ 6 – 8 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ อาจจะจัดระยะ เป็น 10 -12 เมตร ต่อช่วง
ควรปลูกในช่วงฤดูฝน เพราะความชื้นในดินจะเป็นปัจจัยสําคัญที่จะส่งผลต่อการอยู่รอดหรือการเจริญเติบโตของต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ที่ปลูก ระยะเวลาปลูกที่เหมาะสมคือ เดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูฝน จะทําให้ ปาล์มน้ำมัน ตั้งตัวในแปลงได้ยาวนาน ก่อนถึงฤดูแล้ง
ระยะปลูก ที่เหมาะสมคือ การปลูกแบบสามเหลี่ยมด้านเท่า ระยะ 9 X 9 X 9 เมตร หรือ 10 X 10 X หรือ 12 X 12 X 12 ในพื้นที่ 1 ไร่ มีต้น ปาล์มน้ำมัน จํานวน 18 - 22 ต้น สำหรับในพื้นที่ อีสานอาจเพิ่มพื้นที่ระยะปลูกเป็น 12 X 12 X 12 เพื่อเพิ่มพื้นที่สำรองน้ำไว้
การวางแนวปลูก ที่สําคัญคือ การปลูกต้น ปาล์มน้ำมัน ให้ทุกต้นได้รับแสงแดดมากที่สุด และสม่ำเสมอ เพื่อการสังเคราะห์แสงโดยกําหนดให้
แถวปลูกหลักอยู่ แนวทิศเหนือ - ใต้ ระบบการปลูก ปาล์มน้ำมัน ที่นิยมคือ ปลูกแบบสามเหลี่ยมด้านเท่า
ก่อนที่จะนําต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ลงปลูก ควรมีการรองก้นหลุมด้วยปุ๋ย พวก หินฟอสเฟต ในอัตรา 250 กรัมต่อหลุม โดยผสมคลุกเคล้าดินกับปุ๋ย
เพื่อป้องกันการสัมผัสกับรากโดยตรงและควรใส่ดินชั้นบนลงไปในหลุมก่อน และอัดดินให้แน่น เพื่อป้องกันการล้มเมื่อลมพัดแรง
การปลูกซ่อม ควรดําเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ภายในระยะเวลา
1 เดือน หลังจากปลูกเพราะจะทําให้ต้น ปาล์มน้ำมัน ที่ปลูกซ่อมเจริญเติบโตทันกับต้นที่ปลูกไปก่อน สำหรับในพื้นที่ที่มีความแห้งแล้งมากอาจจะใช้ ปาล์มน้ำมัน ที่อายุ12
เดือนขึ้นไปเพื่อลดโอกาสการปลูกซ่อม
หลุมปลูก ปาล์มน้ำมัน เมื่อวางแนวปลูกและปักไม้เป็นเครื่องหมายแล้ว ขุดหลุมขนาดกว้างประมาณ 4.5 ซม. ยาว 45 ซม. ลึก
35 ซม. เป็นรูปตัวยู
โดยให้จุดที่ปักไม้เป็นจุดกลางหลุม
ใช้เสียมแซะดินให้หลุมตั้งตรงขุดดินชั้นบนและชั้นล่างแยกกัน ตากไว้ประมาณ 10 วัน ก่อนปลูกต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน
ฤดูปลูก ปาล์มน้ำมัน ฤดูที่เหมาะสมในการปลูกปาล์มน้ำมัน คือ ต้นฤดูฝน ( ประมาณ เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน ) ควรทําการปลูกเมื่อฝนเริ่มตกแล้ว
เพราะดินจะมีความชื้นเพื่อให้ต้นกล้าได้ มีเวลาตั้งตัวในแปลงได้นาน
การปลูก การปลูก ปาล์มน้ำมัน อย่างถูกวิธีจะทําให้
การเจริญเติบโตของต้น ปาล์มน้ำมัน ดีและให้ ผลผลิตสูง ต้นกล้าที่เหมาะสมควรมีอายุประมาณ
12 - 18 เดือน ต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ที่มีอายุน้อยเกินไป จะทําให้ชะงักการเจริญเติบโตและอ่อนแอต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ สําหรับต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ที่มีอายุมากเกินไปจะกระทบต่อการเจริญเติบโตและตกผลช้ารวมถึงไม่สะดวกในการขนย้าย บางครั้งไม่สามารถใช้ต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ที่มีอายุเท่าที่กําหนดได้ เราสามารถแก้ไขได้ โดยตัดใบบางส่วนทิ้งบ้าง และระวังอย่าให้ รากบอบช้ำจากการขนย้ายมากนัก การเตรียมการในเรือนเพาะชํา
ก่อนย้ายปลูก ปาล์ม ควรมีการให้น้ำต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ก่อนจะนําลงปลูก และพ่นสารเคมีป้องกันกําจัดโรค - แมลง คัดต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ผิดปกติออกให้มากที่สุด
การขนย้าย ต้นปาล์มน้ำมัน ควรใช้รถบรรทุกเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนและคํานึง
ถึงความระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายด้วย การปลูกต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน การใส่ปุ๋ยรองก้นหลุม
ควรใช้ร๊อกฟอสเฟตอัตรา 250 กรัมต่อหลุม ก่อนนําต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ลงปลูกควรคลุกเคล้าดินกับปุ๋ย เพื่อป้องกันการสัมผัสของรากโดยตรง
ใส่ดินลงไปในหลุมโดย ใช้ดินชั้นบนลงไปก่อนแล้วอัดให้แน่นเพื่อป้องกันลมพัดแรง การตรวจแปลงหลังจากปลูกต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน จะต้องอยู่ในสภาพเดิมถ้าตรวจพบควรแก้ไขทันที การปลูกซ่อมควรทําภายในระยะเวลา
1 เดือน หลังจากปลูก
การขนย้ายต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ควรขนย้ายต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้
กระทบกระเทือนมากเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ชะงักการเจริญเติบโต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น